ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
- TH NDMI EXH-SPC-02-02-03-001
- Item
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายพิธีเปิดนิทรรศการชั่วคราว ชุด River of Life
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
บัตรเชิญ นิทรรศการ ชุด เครื่องรางของขลัง (พ.ศ. 2553)
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
บัตรนิทรรศการ เครื่องรางของขลัง
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ. ฝ่ายวิชาการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ตะกรุด
ตะกรุด คือการลงยันต์ในแผ่นโลหะที่แผ่ออก แล้วม้วนเป็นแท่งกลม บางครั้งมีการเรียกตะกรุดที่ต่อด้วยชื่อยันต์ เช่น ลงด้วยยันต์โสฬสมงคล จะเรียกว่า ตะกรุดโสฬสมงคล หรือ ลงด้วยยันต์ตรีนิสิงเห จะเรียกว่า ตะกรุดตรีนิสิงเห เป็นต้น
บางตำราเมื่อลงยันต์เสร็จแล้ว จะมีการพอกด้วยว่านยาต่างๆ ที่มีชื่อต่างกันออกไป เช่น ตำราที่ให้ถมด้วยพระไตรสรณาคมน์ คือการพอกด้วยเครื่องยามีดอกพุทธรักษาสีขาว ดอกพุทธรักษาสีแดง และดอกพุทธรักษาสีเหลือง ถมด้วยสัตตโพชฌงค์ ได้แก่ ใบไม้รู้นอน 7 อย่าง (ใบชุมแสง ใบสมี ใบระงับ ใบหิงหาย ใบผักกระเฉด ใบหญ้าใต้ใบ และใบกระถิน) ถมด้วยนวหรคุณ (เครื่องหอม 9 อย่าง) ได้แก่ จันทร์แดง จันทร์ขาว กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะมด พิมเสน อำพันทอง และน้ำมันหอม เครื่องยาเหล่านี้ตากให้แห้งบดเป็นผงผสมรักพอกไว้ที่ด้านนอกของตะกรุดอีกที
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
หางเครื่อง 1
วงดนตรีลูกทุ่งในปัจจุบันถือว่าหางเครื่องมีความสำคัญที่จะขาดไม่ได้ และมีการแข่งขันสูงทางด้านความสวยงามวิจิตรตระการตา ในระยะแรกเพลงลูกทุ่งยังไม่มีหางเครื่องเหมือนดังเช่นปัจจุบัน หางเครื่องในอดีตหมายถึงเครื่องดนตรีพวกฉิ่ง ฉาบ กรับ กลอง ลูกแซ็ก ไม้แต๊ก แทมบูรีน ที่ใช้เคาะให้จังหวะอยู่ด้านหลังของวงดนตรี เนื่องจากการแสดงของวงดนตรีลูกทุ่งสมัยแรก ใช้เวลา 3 - 4 ชั่วโมง มีรีวิวประกอบเพลงไม่มากนัก จึงให้คนในวงที่ว่างงานอยู่ออกมาช่วยตีเครื่องเคาะให้จังหวะต่างๆ ประกอบการร้อง ของนักร้องหน้าเวที และช่วยให้จังหวะเพลงเด่นชัดขึ้น เรียกกันว่า "เขย่าเครื่องเสียง" หรือ "เขย่าหางเครื่อง"
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
หางเครื่อง 3
เมื่อ พ.ศ. 2518 ศกุนตลา พรหมสว่าง คู่ชีวิตของ เพลิน พรหมแดน ติดตาติดใจเครื่องทรงของโฟลี แบร์แฌร์ (Folies Bergeres) และ มูแลงรูจ (Moulin Rouge) เมื่อคราวไป "ดูงาน" ที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วนำมาดัดแปลงใช้กับชุดหางเครื่องเพลงลูกทุ่งเป็นครั้งแรก จนเกิดเป็น "เทรนด์" ที่ปลุกกระแสแฟชั่นไปทั่ววงการ จากเพลงลูกทุ่งปกติธรรมดาจึงกลายเป็น "ศิลปะการแสดงระดับโลก หางเครื่องนับร้อย นุ่งน้อย ห่มนิด ฟิตเปรี๊ยะ" โดยจัดแสดงครั้งแรกในช่วงท้ายคอนเสิร์ตของ เพลิน พรมแดน
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ