โปสเตอร์ นิทรรศการภาพถ่าย ชุด หนองคาย-เวียงจันทน์ ร้อยสัมพันธ์สองฝั่งโขง
- TH NDMI EXH-SPC-01-04-01-001
- Item
- 2013-08-29
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
2126 results with digital objects Show results with digital objects
โปสเตอร์ นิทรรศการภาพถ่าย ชุด หนองคาย-เวียงจันทน์ ร้อยสัมพันธ์สองฝั่งโขง
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
โปสเตอร์ นิทรรศการ มิวเซียมติดล้อ (Muse Mobile) ชุด เรียงความประเทศไทย จังหวัด สุโขทัย
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
โปสเตอร์ นิทรรศการ ชุด เลขไทย: รู้จัก - เขียนไม่ได้ – นึกไม่ถึง
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
โปสเตอร์ นิทรรศการ ชุด มา แล สาบ มองแมลงสาบ แล้วย้อนมองตัวเอง
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
โปสเตอร์ นิทรรศการ ชุด Please mind the gap
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แผ่นพับงานเทศกาลหนังสือไฟลุกพรึ่บ (LIT Fest)
Part of กิจกรรมมิวเซียมสยาม
Part of กิจกรรมมิวเซียมสยาม
จัดเก็บแผนผัง เอกสาร และสื่อต่างๆ ที่ใช้ในการจัดนิทรรศการ รวมถึงภาพถ่ายภายในห้องนิทรรศการและวัตถุที่จัดวาง
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
เหรียญที่ระลึก กิจกรรม Night at the Museum V: ตอน ปลุกยักษ์
Part of กิจกรรมมิวเซียมสยาม
เหรียญที่ระลึกงาน Night at the museum ครั้งที่ 5 มี 3 แบบ (มีการ์ดสำหรับเก็บเหรียญ)
สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ. ฝ่ายเครือข่ายพิพิธภัณฑ์
เครื่องรางของขลัง : เสื้อ/ผ้ายันต์
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
เสื้อ/ผ้ายันต์
ผ้ายันต์หรือประเจียด คือการลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ บนผืนผ้า ใช้เป็นเครื่องรางโดยการโพกศีรษะ ผูกแขนหากลงที่เสื้อจะเรียกว่า เสื้อยันต์ การทำผ้ายันต์ต้องเป็นผ้าที่บริสุทธิ์ ได้แก่ ผ้าบังสุกุลย้อมด้วยน้ำว่าน ถ้าเป็นยันต์ที่มีคุณทางด้านคงกระพัน ต้องย้อมด้วยว่านเพชรน้อย ว่านเพชรใหญ่ ถ้าเป็นผ้ายันต์ทางเมตตา ต้องย้อมด้วยว่านเสน่ห์จันทร์ แล้วลงอักขระด้วยน้ำหมึกที่ผสมด้วยดีสัตว์ 5 ชนิด ได้แก่ ดีไก่ดำ ดีงู ดีเต่า ดีวัว และดีเสือ
อานุภาพของผ้ายันต์หรือผ้าประเจียดจะมีตามยันต์ที่ลง เช่น ยันต์ตรีนิสิงเหจะมีอานุภาพทางป้องกันภูตผีปีศาจ กันคุณไสย ยันต์ปิโยจะมีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เมื่อพกไปที่ใดจะเป็นที่รักใคร่เมตตาของคนทั้งหลาย
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
เบี้ยแก้
เบี้ยแก้ มีคุณในด้านการป้องกันการกระทำคุณไสยได้ทุกชนิด รวมถึงจาก วิญญาณร้ายภูตผีปีศาจ ดังนั้น คนโบราณเวลาเดินทางไปไหนมาไหน มักจะพกเบี้ยแก้โดยการแขวนร้อยเข้ากับเชือกขาดเอวเหมือนตะกรุด ติดตัวไว้เสมอ
เบี้ยแก้ทำจากเบี้ยจั่น (หอยทะเลชนิดหนึ่ง) ที่มีซี่ฟันครบ 32 ซี่ และมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพื่อบรรจุปรอทได้น้ำหนักที่ 1 บาท อุดด้วยชันโรงใต้ดิน
เครื่องรางของขลัง : เขี้ยวเสือ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
เขี้ยวเสือ
ตำราแกะเขี้ยวเสือนั้น มี 2 แบบ คือ แกะเป็นรูปเสือ และแกะเป็นรูปภควัมบดี โดยใช้เขี้ยวของเสือ ที่เคยกินคนแล้วหรือเขี้ยวเสือโปร่งฟ้า คือเขี้ยวเสือกลวง เป็นโพลงตั้งแต่โคนเขี้ยว เนื้อเขี้ยวมีความบางกว่าเขี้ยวเสือทั่วไป คนโบราณคือว่า เขี้ยวเสือสามารถฝนเป็นยาได้ และพกติดตัวเป็นมหาอำนาจ กันคุณไสย ผีโป่งผีป่า
อันว่าเขี้ยวเสือที่ดีต้องกลวงดังคำพังเพยว่า กะลาตาเดียว งาช้างหัก เขี้ยวหมูตัน ฟันเสือกลวง ถือเป็นของทนสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว ถึงแม้ไม่ต้องปลุกเสกก็มีคุณวิเศษในตัวเอง เมื่อนำมาแกะเป็นรูปเสือ จะลงด้วยหัวใจพระไตรสรณาคมน์ตามจุดต่างๆ ตัว พุ ลงตาซ้าย ตัว ธะ ลงตาขวา ตัว สัง ลงหน้า ตัว มิ ลงหลัง เขี้ยวเสือแกะนี้มีการสร้างกันมาช้านานหลากหลายอาจารย์ แต่เสือที่โด่งดังที่สุดก็ต้องเสือของ “พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ” หรือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน
เครื่องรางของขลัง : ศาลพระภูมิ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ศาลพระภูมิ
ความเป็นมาของพระภูมิชัยมงคลตามคติทางศาสนาพราหมณ์ ในสมัยหนึ่งผู้เป็นใหญ่ที่สุดในมวลมนุษย์ พระนามว่า “ท้าวทศราช” ปกครองนคร “กรุงพาลี” ปกครองบ้านเมืองอย่างไร้คุณธรรม พระนารายณ์จึงอวตารลงมาปราบและขับไล่พระเจ้ากรุงพาลีพร้อมครอบครัวให้ไปอยู่นอกเขตป่าหิมพานต์ ราษฎรจึงอยู่อย่างเป็นสุข ฝ่ายท้าวทศราชต้องพบกับความยากลำบากจึงสำนึกผิด และเข้าเฝ้าพระนารายณ์ เพื่อขออภัยโทษ และปวารณาตนว่าจะตั้งอยู่ในศีลธรรม ประกอบกรรมดี พระนารายณ์เห็นจิตอันแรงกล้าจึงอภัยโทษและอนุญาตให้ท้าวทศราชและครอบครัวกลับมาอยู่ที่กรุงพาลีได้ดังเดิม แต่ให้ประทับอยู่บนศาลที่มีเสาเพียง 1 เสาปักลงบนผืนดิน และต้องปฏิบัติตามคำสัญญาอย่างเคร่งครัด