แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
- TH NDMI EXH-SPC-02-02-02-004
- เรื่อง
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
1195 results with digital objects Show results with digital objects
แบบนิทรรศการ ชุด จากสยามสู่ยุโรป บนเส้นทางซ่อนวาระ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ปลัดขิก
ปลัดขิก เชื่อกันว่า มีการสร้างปลัดขิกมาตั้งแต่โบราณ และมีความเกี่ยวพันกับคติความเชื่อในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เพราะเชื่อว่า อวัยวะเพศชายเป็นต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย จนพัฒนาเป็นคติการบูชาศิวลึงค์
ปลัดขิกสร้างจากวัสดุหลายชนิด เช่น หินศักดิ์สิทธิ์ ไม้มงคล ทองเหลือง ทองแดง เงิน ทองคำ เขี้ยวสัตว์ เขาสัตว์ งาช้าง และกัลปังหาจากท้องทะเล เป็นต้น
ปลัดขิกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ เช่น ปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ปลัดขิกของหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา ปลัดขิกของอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาจารย์ฆราวาส เป็นต้น
ภาพถ่ายห้องนิทรรศการถอดรหัสไทย : ห้องไทย Only
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายงานแถลงข่าว นิทรรศการถอดรหัสไทย
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายพิธีเปิดนิทรรศการ ชุด ผู้แทนฯ เมืองไทย
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการ ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องสยามประเทศ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
จับไมค์ใส่ขนนก : ยุคภาพยนตร์เพลง (พ.ศ. 2513 - 2515)
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ยุคภาพยนตร์เพลง (พ.ศ. 2513 - 2515)
เมื่อมีการแข่งขันกันเองระหว่างเพลงลูกกรุงและเพลงลูกทุ่งในยุคนี้ จึงเริ่มนำเพลงลูกทุ่งมาประกอบในภาพยนตร์ ซึ่งเรื่องแรกที่โด่งดัง เป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมากคือ มนต์รักลูกทุ่ง โดยเฉพาะเพลงมนต์รักลูกทุ่ง ที่ไพบูลย์ บุตรขัน เป็นผู้แต่ง ขับร้องโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร มีความไพเราะ ทั้งท่วงทำนอง และเนื้อหา ดุจบทกวีที่ประทับใจผู้ชม เช่น "หอมเอย หอมดอกกระถิน รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง…หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน ครวญระคนหอมแก้มนงคราญ ขลุ่ยเป่าแผ่วพลิ้วผ่านทิวแถวต้นตาล มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา" ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องต่อๆ มาในยุคนี้ เปลี่ยนแนวมาเป็นภาพยนตร์เพลงส่วนใหญ่ เช่น เรื่อง โทน ที่มีสังข์ทอง สีใส ร้องนำ เนื้อหาของเพลงในช่วงนี้ นอกจากเป็นเรื่องของชาวชนบทท้องทุ่งท้องนาแล้ว ยังแทรกอารมณ์ขันและคารมเสียดสีด้วย
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ระหัดวิดน้ำ
การจะวิดน้ำเข้านาจะต้องใช้ระหัด ประกอบด้วยกงล้อและตัวราง รางระหัดมีความยาวพาดจากที่นาไปยังแหล่งน้ำที่อยู่ในระดับต่ำกว่า เพื่อเพิ่มความเร็วของรอบเฟือง เมื่อกงล้อหมุน ก็จะหมุนเฟือง ซึ่งจะไปหมุนใบพัด ที่พาดผ่านเฟืองทั้งสองอีกที ใบพัดในรางระหัดนี้เองที่เป็นอุปกรณ์วิดน้ำเข้านา
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ส้วมพระ มาจากไหน
ในสมัยสุโขทัย มีการเชื่อมสัมพันธ์ด้านพุทธศาสนากับลังกาอย่างใกล้ชิด ดังนั้น นอกจากหลักคำสอนแล้ว สุโขทัยยังรับ “กฎ กติกา มารยาท” และเทคโนโลยีในการขับถ่ายมาจากลังกาด้วย หนึ่งในนั้นก็ คือ “ถานพระ”
“ถานพระ” มีรูและร่อง ที่อยู่ในตำแหน่งเหมาะสม ช่วยแยกอุจจาระไม่ให้ปนกับปัสสาวะ เมื่ออุจจาระแห้งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ก็ลดลงไปอย่างมาก แต่เนื่องจากพื้นดินของประเทศไทยมีความชุ่มน้ำมาก ทำให้อุจจาระที่แม้ไม่เปียกด้วยปัสสาวะ ก็ต้องมาเปียกด้วยน้ำในหลุมดินอยู่ดี ถานพระชนิดนี้จึงไม่เป็นที่นิยมนักในดินแดนประเทศไทย
“เว็จ”
พระสงฆ์ มีคำเรียกสถานที่ขับถ่ายโดยเฉพาะ คือ “เว็จ” มาจากภาษาบาลี-สันสกฤตในคำว่า “วจฺจกุฏิ” ซึ่งหมายถึงสถานที่ขับถ่ายของสงฆ์ในวัด ต่อมาคำว่า “วจฺจ” แผลงเป็น “เว็จ” และใช้ในความหมายที่กว้างขึ้น หมายถึงส้วมโดยทั่วไป
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด พระนคร on the Move
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายห้องนิทรรศการถอดรหัสไทย : ห้องไทย Inter
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายพิธีเปิดนิทรรศการ ชุด ผู้แทนฯ เมืองไทย
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการ ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องไทยแท้
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการ ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องสุวรรณภูมิ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการ ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องแผนที่
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการถาวร ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องกรุงเทพฯ ภายใต้ฉากอยุธยา
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการ ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องชีวิตนอกกรุงเทพฯ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
นิทรรศการ ชุด เรียงความประเทศไทย : ห้องเมืองไทยวันนี้
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
ภาพถ่ายนิทรรศการ ชุด กวัก ด้าย กี่ เรื่องราว ไน ผืนผ้า
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
Part of แผนผังและภาพถ่ายนิทรรศการ
กุมารทอง
ตุ๊กตาทอง หรือกุมารทอง ในตำราเดิมสร้างด้วยดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู มาปั้นแจกชาวบ้าน เพื่อเป็นเครื่องคุ้มครอง เพราะเชื่อกันว่าดินดังกล่าวมีเทวดารักษา มีความศักดิ์สิทธิ์ ใช้ดินอาถรรพ์ทั้งหมดมาผสมรวมกัน และปั้นขึ้นรูปกุมารตามตำราหลวงพ่อเต๋ และหาฤกษ์ยามวันเวลาก่อนนำองค์กุมารที่ปั้นเสร็จไปเข้าเตาเผาดินให้ดินสุกตามฤกษ์ก่อนฟ้าสาง
การนำกุมารมาปลุกเสกด้วยวิทยาคมบริกรรมคาถาเรียกดวงวิญญาณสถิต โดยนั่งสมาธิขอเชิญพญามัจจุราชในยมโลกเพื่อขออนุญาตนำดวงวิญญาณเด็กมาสถิตในองค์กุมารทอง เสริมสร้างบุญบารมี โดยการช่วยเหลือมนุษย์ในเรื่องของการค้าขาย ป้องกันภัย ดวงวิญญาณนั้นก็จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี